รายละเอียดกิจกรรม
เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือขึ้น ระหว่าง โรงเรียนการอาหารนานาชาติเพชรบุรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสนาะ กลิ่นงาม ตำแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ได้ให้เกียรติร่วมเป็นพยานในพิธีลงนามนี้ ซึ่งในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้เรียกว่า“โรงเรียนการอาหารนานาชาติเพชรบุรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี” โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ณรงค์ ไกรเนตร์ คณบดี (ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันปรากฏตามหนังสือมอบอำนาจจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี) ฝ่ายหนึ่ง กับ โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดย ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนพัฒน์ แสงรุ่งเรือง ตำแหน่ง คณบดีโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันปรากฏตามหนังสือมอบอำนาจจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต)
ซึ่งทั้งสองฝ่ายในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้เรียกว่า “ผู้ร่วมดำเนินงาน” และผู้ร่วมดำเนินงานได้ตกลงทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการโดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
ข้อ ๑ วัตถุประสงค์ของความร่วมมือ
ทั้งสองฝ่ายมีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งเน้นการเรียนการสอน การบริการวิชาการ และการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ คหกรรม ร่วมกันผลักดันให้เกิดการขยายตัวของการเรียนการสอนและการวิจัยเกี่ยวกับคหกรรมศาสตร์ที่มีคุณภาพสูง ร่วมกันสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากร นิสิต นักศึกษา และองค์ความรู้เพื่อพัฒนาหลักสูตรและการวิจัยด้านคหกรรมศาสตร์
ข้อ ๒ บทบาทหน้าที่
ผู้ร่วมดำเนินงานมีบทบาทหน้าที่ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ ดังนี้
๒.๑ ผู้ร่วมดำเนินงาน มีหน้าที่ร่วมมือในการพัฒนาการเรียนการสอน การแลกเปลี่ยนอาจารย์ในการสอน การสร้างหลักสูตร การสร้างห้องปฏิบัติการเพื่อการเรียนรู้ การบูรณาการความรู้ในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนการอาหารนานาชาติเพชรบุรี
๒.๒ ผู้ร่วมดำเนินงาน มีหน้าที่ร่วมมือในการวิจัย และบริการวิชาการ การตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการและการจัดประชุมทางวิชาการทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ
๒.๓ ผู้ร่วมดำเนินงาน มีหน้าที่ร่วมมือในการพัฒนานิสิต นักศึกษา ผ่านการจัดโครงการและกิจกรรม
๒.๔ ผู้ร่วมดำเนินงาน มีหน้าที่สนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งด้านการเรียนการสอนและการวิจัยตามสาขาที่เชี่ยวชาญผ่านการแลกเปลี่ยนบุคลากร คณาจารย์ และนักวิจัย หรือกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
๒.๕ ผู้ร่วมดำเนินงาน อาจตกลงร่วมกันกำหนดรายละเอียดเฉพาะเรื่อง เฉพาะโครงการเป็นรายกรณีไป และจัดทำเป็นบันทึกแนบท้ายบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกข้อตกลงนี้ด้วย
ข้อ ๓ ระยะเวลาดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลง
บันทึกข้อตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ผู้ร่วมดำเนินงานลงนามบันทึกข้อตกลงโดยกำหนดระยะเวลา ๓ ปี (สามปี) ซึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกข้อตกลงฉบับนี้ก่อนสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว โดยมีหนังสือแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งรับทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ ภาคการศึกษา
ทั้งนี้ก่อนบันทึกข้อตกลงจะสิ้นความผูกพัน หากผู้ร่วมดำเนินงานเห็นชอบร่วมกัน อาจขยายบันทึกข้อตกลงออกไปอีกครั้งละไม่เกิน ๓ ปี (สามปี) โดยจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษร ลงนามโดยผู้มีอำนาจลงนามของแต่ละฝ่าย
หากสิ้นสุดบันทึกข้อตกลงความร่วมมือไม่ว่ากรณีใดๆ ต้องไม่กระทบกับโครงการภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ หรือกิจกรรมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว หรือที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เว้นแต่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงเป็นอย่างอื่น
ข้อ ๔ กรรมสิทธิ์และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือสิทธิอื่นใดในผลงาน สิ่งประดิษฐ์ คู่มือ เอกสาร โปรแกรม คอมพิวเตอร์ ข้อมูล หรือสิ่งอื่นใดที่เกิดขึ้นภายใต้บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ให้เป็นสิทธิร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
ข้อ ๕ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์
แต่ละฝ่ายมีสิทธิที่จะเผยแพร่ และ/หรือ ประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะเพื่อวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ผลงานได้เท่าที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออีกฝ่าย ซึ่งการเผยแพร่ และ/หรือ ประชาสัมพันธ์ดังกล่าวจะต้องไม่เป็นการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ในการเผยแพร่ และ/หรือ ประชาสัมพันธ์ดังกล่าวจะต้องแสดงข้อความหรือสัญลักษณ์อื่นใดให้ปรากฏว่าเป็นความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงฉบับนี้อย่างชัดเจน
ข้อ ๖ การรักษาความลับ
แต่ละฝ่ายต้องรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งฝ่ายที่เป็นเจ้าของข้อมูลที่เป็นความลับประสงค์จะให้เก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นความลับ โดยจะไม่เปิดเผย เผยแพร่ เว้นแต่กรณีที่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของข้อมูลที่เป็นความลับ
การรักษาความลับดังกล่าวตามวรรคหนึ่งให้ยังคงมีผลต่อไปแม้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้จะสิ้นสุดลงแล้ว และจะเปิดเผย เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความลับได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของข้อมูลที่เป็นความลับนั้น
ข้อ ๗ ค่าใช้จ่ายและงบประมาณ
ผู้ร่วมดำเนินงานตกลงรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และงบประมาณสำหรับดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ในแต่ละโครงการ แต่ละกิจกรรม โดยทั้งสองฝ่ายจะได้ตกลงร่วมกันจัดสรรงบประมาณเป็นครั้งๆไป
ข้อ ๘ การเปลี่ยนแปลงแก้ไข
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเหตุจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายละเอียดบันทึกข้อตกลงฉบับนี้จะทำได้ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน โดยให้ทำเป็นบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติม และลงนามผูกพันโดยผู้มีอำนาจลงนามของผู้ร่วมดำเนินงานแต่ละฝ่ายบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ จัดทำขึ้นเป็นคู่ฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกันทุกประการผู้ร่วมดำเนินงานได้อ่านแล้วเข้าใจข้อความโดยตลอด เห็นว่าถูกต้องตามเจตนารมณ์ จึงลงลายมือชื่อและประทับตรา(ถ้ามี)ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและต่างเก็บไว้ฝ่ายละฉบับ